ออกจาก milford sound ก็ขับไปตาม milford road ซึ่งมีความยาวถึง te anau ประมาณ 121 km ความงามและความหลากหลายของถนนเส้นนี้ทำให้ถูกจัดให้เป็น world heritage highway ชมนกชมไม้กันไปเรื่อย เกือบเลยทางเข้าชม mirror lake ซึ่งมีเล็กๆบอกว่าเป็นทางเข้าอยู่ด้านขวามือ เราจอดรถข้างทางแล้วเดินเข้าไปนิดเดียวก็ถึง lake แล้ว (ไม่เหนื่อยเหมือน lake mattheson) อากาศดี ฟ้าใสทำให้การสะท้อนน้ำของทะเลสาปแห่งนี้สวยมากๆๆ หากสังเกตุในน้ำดีๆจะเห็นสัตว์น้ำหลายชนิดเลย ใครไม่เคยเห็นปลาเทร้าส์ไปดูที่นี้ได้เลย
ตัวหนังสือที่เห็นในน้ำเป็นภาพสะท้อนค่ะ mirror mirror.............
ขากลับไม่มืดเหมือนตอนมา ทำให้พวกเราตะลึงกับวิวข้างทางมากๆๆๆ สวยอย่างกะภาพวาด จนต้องจอดรถลงไปถ่ายภาพเป็นระยะๆๆๆ ทำให้กว่าจะมาถึงเมืองเท นาว ก็เกือบ 4 pm. ร้านค้าปิดเกือบหมด ยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย ปิดก็คือปิดจริงๆ บางร้านไปถึงยังมีคนทานอยู่เลยแต่ครัวปิด เลยอด นาทีนี้คิดถึงเมืองไทยสุดๆ ที่มีให้กินตลอดทาง เราเดินหาร้านจนหมดแรงขนมปังตอนเช้า กะว่าจะหาห้องน้ำเข้าแล้วกลับไปกินขนมปังที่เหลือต่อในรถและเดินทางต่อ โชคดีมากเจอร้านยังไม่ปิดแต่อาหารหมด ....แต่โลกยังไม่โหดร้ายนักในร้านนั้นมี มาม่าเกาหลีขาย พวกเราเลยรอดตายขอน้ำร้อนที่เขาชงกาแฟขายมาใส่ มื้อนี้จึงเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดๆๆๆๆ อีกมื้อหนึ่ง
อิ่มแล้วก็เดินทางต่อ เราใช้เส้นทางสาย 94 จาก te anau ---mossburn----lumsden----riverdale---gore แล้วขับไปตามถนนสาย 1 ไปทาง balclutha----milton----mosgiel--- และก็ถึงจุดหมาย dunedin รวมระยะทาง 298 km. ใช้เวลา 4 h 19m
แม้ว่าจะเป็นการขับรถที่นานมากๆๆ แต่ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆให้ชมและแวะถ่ายรูปเพื่อยืดเส้นยืดสายตลอดทาง
แกะแถวนี้ตัดขนล่อนจ้อนเลย
มาถึง dunedin เมืองที่ออกเสียงยากส์มากๆๆ ตั้งแต่ ดูเนอดีน เดอนาดีน ดนาดีน ... กว่าจะเข้าใจกันเล่นเอาเหนื่อย วันนี้เราพักที่ living space dunedin (198 nz / 2 ห้อง) ห้องพักที่ตกแต่งสไตล์ทันสมัย ใช้พื้นที่ได้ประหยัดมาก เมืองนี้ค่าที่พักค่อนข้างแพง ควรจะจองมาก่อนจะดีกว่า เอาของเข้าที่พักก็ออกไปหาอะไรทาน ตอนนี้ก็ประมาณ 8.30 pm แต่เมืองนี้เหมือนเมืองกลางคืน คึกคักมากๆๆ ร้านมีหลากหลาย เราเดินเล่นด้วย เดินเลือกร้านจนดึก สุดท้ายมาหยุดที่ร้าน subway อืม อร่อยอีกแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความเห็น