สถานีรถไฟเมืองดูนาดีน
18 เม.ย. 53 เราเที่ยวในเมือง dunedin เมืองแห่งสถาปัตยกรรมและการศึกษา ตอนแรกหนังสือที่อ่านบอกว่า เมืองนี้คล้ายประเทศยุโรป หลายคนที่มีเวลาน้อยจึงเลือกที่จะตัดเมืองนี้ออกไปจากแผนการท่องเที่ยวเพราะอยู่ฝั่งตะวันออก ไกลจากเมืองท่องเที่ยวอื่นๆมาก แต่เราคิดว่าไหนๆมาแล้วต้องไปให้ถึง ไม่รู้เมื่อไรจะมีโอกาสมาเที่ยวประเทศนี้อีก พอมาถึงก็ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งสถาปัตยกรรม บ้านเรือน วิหารต่างๆ แม้จะรับวัฒนธรรมมาจากยุโรปแต่ก็มีอัตลักษณ์ของเขา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมืองนี้ทำให้เราเบรกจากธรรมชาติ โดยวันแรกๆก็จะตื่นเต้นกับธรรมชาติที่แสนอลังการของนิวซีแลนด์ วันต่อๆมาความตื่นเต้นก็ลดน้อยลง พอมาเห็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะใต้ ก็เลยรู้สึกตื่นตาตื่นใจ และสนุกไปกับสีสันของเมืองนี้ ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวแนะนำให้ใส่เมืองนี้เข้าไปในแผนท่องเที่ยวด้วยค่ะ หากเวลาน้อยก็บินสายการบินราคาถูก (ถ้าจองล่วงหน้า ประมาณ 40 nz)
ถ้าเวลาเยอะก็นั่งรถไฟ เส้นทางเดินรถไฟก็เก่าแก่และสวยเหมือนกัน สถานีรถไฟเมืองดูนาดีนสร้างในปี 1906 เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ สถาปัตยกรรมแบบเรสเนสซองหรือแบบวิคตอเรียนและเอ็ดวาเดี่ยน ภายในตกแต่งด้วยโมเสท ที่นี่ยังเปิดให้บริการอยู่
ศาลแห่งแรกของเมือง
เช้านี้รถรายังน้อย ก็เมืองที่มีนักเรียนเยอะชีวิตก็เริ่มต้นสายแบบนี้แหละ เราเลือกที่จะขับรถวนดูในเมืองยามเช้าอีกรอบหลังจากหลงมาเมื่อคืนแล้ว เจอที่ไหนน่าสนใจก็หยุดชม
เมืองดูนาดีนมีลักษณะพื้นที่เป็นเนินสูงๆต่ำๆ บางคนบอกคล้ายซานฟรานซิสโก ดังนั้นเวลาจอดรถต้องระวังรถไหล
หิวแล้ว มื้อเช้านี้เราเลือกร้าน the good oil ตั้งอยู่สายหลักของเมือง จากซิตี้เซนเตอร์ก็ตรงไปเรื่อยๆ ร้านอยู่ริมถนน ขนมปังโฮมเมท กาแฟหอมกรุ่น อร่อยมากๆ พนักงานที่นี่น่ารักอย่างกะนางแบบ เมืองนี้คนหุ่นดี ไม่อ้วนเท่าไร สงสัยนักศึกษาเยอะ
ออกจากร้านอร่อยก็ไปโบสถ์กัน เมืองนี้มีโบสถ์สำคัญๆหลายแห่ง เช่น เซนต์โจเซฟ คาร์ทิดอร์ สร้างในปี 1879 เป็นวิหารที่ใหญ่และสวยมาก
ภายในประดับด้วยกระจกสี บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ ศิลปะแบบโกธิค
ขับรถขึ้นมาบริเวณส่วนที่สูงที่สุดของเมือง ใกล้กับที่ตั้งโบสถ์ rosyn เราไม่ได้เข้าไปเพราะกำลังมีงานพิธีอยู่
city center
university of otago เป็นที่น่าไปอีกแห่งของที่นี่ เวลาอยู่ในนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นนักศึกษาอีกครั้งเลย แต่พอเห็นเด็กมหาวิทยาลัยอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบก็ขนลุกแย้ว
เมืองนี้ยังมี out let หรือ โรงงานต่างๆเช่น โรงงานเบียร์ โรงงานแคดบูรี (ช๊อคโกแลต) เราสามารถเข้าไปชมการผลิตในโรงงานได้ (มีค่าเข้า) เราเลือกซื้อของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆที่นี่ซักพักก็ต้องเตรียมเดินทางออกจากเมืองนี้
เราออกจากเมืองดูนาดีนเกือบเย็นแล้ว ต้องขับรถย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองควีนคาวน์ โดยใช้เส้นทางสาย 1 จาก dunedin---mosgiel---milton--แล้วเลี้ยวขวาแยกไปทางสาย 8 จะผ่านเมือง lawrence---roxburgh---alexandra---cromwell แล้วกลับเข้าสู่สาย 6 ไป arrowtown ---queenstown
เส้นทางนี้เราจะผ่านสวนผลไม้ โดยเฉพาะเมือง alexandra ตอนนี้แอปเปิ้ลกำลังออกผลเต็มต้นเลย ไปจอดรถจะซื้อตามร้านข้างๆสวน ไม่มีคนขาย เขาให้คนซื้อหยิบเอง ชั่งกิโลเอง และจ่ายเงินเอง ไว้ใจกันสุดๆๆ (มีกล้องวงจรปิด) ซื้อแอ๊ปเปิ้ลเสร็จก็ขับรถยาวถึงที่พักในเมืองควีนส์ทาวน์ก็ค่ำมากๆเหมือนเดิม ก็ระยะทางประมาณ 286 km. ใช้เวลา 4h 7 m
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความเห็น