17 เม.ย. 53 ออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่เช้ามืด ยังไม่สว่างเลย พนักงานโรงแรมยังไม่มาทำงานโทรไปถามเขาบอกว่า ไม่เป็นไรทิ้งกุญแจไว้ที่ห้อง ส่วนค่าที่พักเดี๋ยวตัดจากบัตรเครดิตที่เราจองมาเอง (ไว้ใจดีเนอะ) เส้นทางไปมิลด์ฟอร์ดซาวน์ชาวนิวซีแลนด์บอกว่า เป็นเส้นทางที่สวยติดอันดับ 8 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยนะ ขาไปยังไม่สว่างมากเลยไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไร แต่พอเริ่มเข้าสู่มิลฟอร์ดซาวน์จึงได้เห็นความงามมากๆๆ ของที่นี่ เชื่อเลยว่า ทำไมทุกคนที่นี่จึงจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สวยเกินบรรยายจริงๆ รอบๆตัวเรามีน้ำตกเป็นร้อยหรือพันสาย เรียกว่านับไม่ถ้วนก็ได้ เหมือนอยู่ในหุบเขาที่มีน้ำตกรอบด้าน เป็นธรรมชาติที่เข้าถึงได้ง่ายมาก ไม่ต้องเดินป่าลึกๆๆแบบบ้านเราถึงจะเจอน้ำตกซักอัน ป่าที่นี่ก็อุดมสมบูรณ์
บางจุดก็มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่หล่นลงมา ใหญ่กว่าตัวคนหลายเท่าเลย ขึ้นไปเดินเล่นได้แต่ต้องระวังลื่น จาก te anau มาถึง milford sound ก็ประมาณ 116 km. ใช้เวลา 1h 41m เราต้องขับรถผ่านอุโมงค์ที่เจาะภูเขาเข้าไป ซึ่งก็เหมือนเดิมคือเป็นอุโมงค์ทางเดียวต้องสลับกันใช้
การเข้าไปชมมิลด์ฟอร์ดซาวน์เราจองเรือขนาดกลางเพราะจะได้เข้าไปใกล้น้ำตกได้มากกว่าเรือขนาดใหญ่ เราซื้อแพคเกจรวมดูหนอนกับมิลด์ฟอร์ดซาวน์ 4 คน 504 nz นอกจากนั่งเรือก็สามารถนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมได้นะ แต่ไม่แนะนำเพราะความสนุกอยู่ที่ได้สัมผัสกับน้ำตกแบบใกล้ชิดจนเปียกไปทั้งตัวค่ะ
การนั่งเรือชม milford sound ใช้เวลาประมาณ 3h ต้องนั่งเรือจากส่วนที่ลึกที่สุดไปถึงปากอ่าวทะเล sound ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าเสียงนะ แต่หมายถึง ส่วนของทะเลที่ถูกแผ่นดินโอบล้อมไว้ โดยมีความลึกเข้าไปในแผ่นดินมากกว่าอ่าว ส่วนที่เป็นผืนน้ำเรียกว่า sound ส่วนที่เป็นผืนดินที่ถูกน้ำกัดเซาะและยื่นเข้ามาในน้ำเรียกว่า ฟยอร์ด
มาถึงไฮไลท์ของการนั่งชม milford sound แล้ว นั่นคือการที่เรือหันหัวเรือเข้าไปใกล้ๆกับน้ำตกขนาดใหญ่ (อย่างที่บอกในตอนแรก ยิ่งเล็กยิ่งลึก) ละอองน้ำจากน้ำตกจะตกลงมาบนเรือแทน สดชื่นและเปียกกันทั่วทุกคน (ใครไม่อยากเปียกก็หลบเข้าไปในลำเรือ) สนุกและตื่นเต้นดี
งานนี้ทุ่มทุนไม่ยอมเข้าไปหลบเพราะอยากเก็บภาพผลคือ ทั้งเปียกและหนาว แต่ที่สำคัญกล้องช๊อคไม่โฟกัสภาพอัตโนมัติอีกเลย แง แง เลยอดถ่ายภาพแมวน้ำมาด้วยเลย
ทะเลทัสมันบริเวณอ่าวก็มีน้ำตกหลายสาย เหมือนกัน วันนี้ฝนตกตลอด แต่ไกด์บอกว่า ถือว่าโชคดีจะได้มีน้ำตกหลายสายมากขึ้น ตอนแรกก็งงๆ คิดว่าเขาปลอบใจ แต่ก็จริงอย่างที่เขาพูดเพราะพอฝนตกก็ยิ่งสวยขึ้นอีก ที่จริงแล้วบริเวณนี้ก็ฝนตกตลอดเพราะอากาศชื้นมากๆๆ
เวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ด้วยความที่ธรรมชาติเขาสวยมีอะไรให้ดูได้ตลอดทาง นอกจากภูเขาที่มีรูปร่างสวยงาม น้ำตกหลายสายแล้ว ก็ยังมีสัตว์อีกหลายชนิด เป็นต้นว่า แมวน้ำตัวอ้วนที่ผึ่งพุงอยู่บนโขดหิน ถ้าโชคดีก็อาจเห็น ปลาโลมา เพนกวิน ปลาวาฬ
เห็นแล้ว อิจฉาเลยอ่ะ น่าสนุกมากๆ
ตอบลบ