ออกจากกรุงเวียนนาแต่เช้ามุ่งสู่เมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเซีย เครื่องบินใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าก็ถึง Cilipi airport เมืองดูบรอฟนิก เมืองที่เคยมีความสำคัญทางทะเลตั้งแต่ ศต.ที่ 13 จึงมีความเจริญรุ่งเรือง บ้านเมืองสวยงาม การวางผังเมืองดี จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรปและได้รับฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก Pearl of the Adriatic
![]() |
Dubrovnik |
ดูบรอฟนิกเป็นเมืองที่สวยงามมาก มีความงดงามในหลากหลายแบบทั้ง Gothic , Renaissance และ Baroque เมืองเก่าแก่แห่งนี้ที่สร้างตั้งแต่ ศต.ที่ 7 ตัวเมืองถูกล้อมด้วยกำแพงสูงความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ออกจากกำแพงเมืองก็เป็นทะเลเอเดรียติกซึ่งคั่นระหว่างประเทศโครเอเซียและอิตาลี เมืองที่เราเห็นสวยๆแบบนี้เคยได้รับความเสียหายมาหลายครั้งตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1667 ความเสียหายจากการสู้รบและสงครามการแบ่งแยกดินแดนในช่วงปี 1991 อาคารบ้านเรือน สถานที่สำคัญต่างๆ ถูกเผาทำลาย ถูกระเบิด สงครามสงบในปี 1992 ต่อมาจึงได้รับการฟื้นฟูโดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก้ แต่ร่องรอยของความเสียหายจากสงครามก็ยังปรากฏอยู่ สังเกตุได้จากกำแพงเมืองที่ยังมีรอยกระสุนมากมาย
เมืองสวยเก่าแก่สมกับที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1979 หลังคาของบ้านเรือนหรือสถานที่สำคัญแต่ละหลังล้วนใช้สีส้ม ยามกระทบกับแสงอาทิตย์ยิ่งสวยงาม
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgLopSADp6xZWaOk6oAqDOk-Pbgo-7fwFfxtmZBGkPv3N5pjBaBcSwn6DGK5Qc_XcLzo5nVlfACpHx4sYe9zyHPQpjfWwVNIlCchaLjNuEp796mShhM4mQSehnxAku9qbm2Q260btV9bg5F/s1600/10524619_819384538080923_829620388642196813_n.jpg)
ป้อมปราการส่วนหนึ่งของกำแพงเมือง ใครที่ติดตาม Game of Thrones ดูบรอฟนิก ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ดังเรื่องนี้เช่นกัน
การเดินเล่นบนกำแพงเมืองก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนดูบรอฟนิก เนื่องจากกำแพงแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสิบของกำแพงเมืองหินยุคกลางใหม่ Late Medieval Period ที่สวยที่สุดในโลก กำแพงนี้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวอาหรับ ชาวมาเซโดเนียน และชาวเซิร์บ (ค่าขึ้นชมคนละ 70 คูน่า) ปิดทางขึ้นเวลาประมาณ 17 น. (ตรวจสอบเวลาก่อนไปนะค่ะ)
ใครอยากสัมผัสทะเลเอเดรียติกแบบใกล้ชิดก็สามารถล่องเรือชมเมืองได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือค่ะ แต่เราขอเดินเล่นชมวิถีชีวิตชาวเมืองจะถนัดกว่าค่ะ (อยากสำรวจตลาดน่ะ)
![]() |
ถนน Stradun |
ไฮไลน์ที่ไม่ควรพลาดในเขตเมืองเก่า คือ ศาลาว่าการประจำเมือง (City Hall ) รูปปั้นนักบุญ เซนต์เบลส นักบุญประจำเมือง น้ำพุโอโนฟริโอ Onofrio โรแลนด์ คอลัมน์ (Roland's Column) หอระฆังโบราณ (Bell Tower) พระราชวังเรคเตอร์ ( Rector 's Palace ) พระราชวังสปอนซา (Sponza Palace ) หรือจะเดินเล่นในถนนสายหลักของเมือง ถนน Stradun ที่มีร้านค้ามากมาย
เมืองดูบรอฟนิกมีโบสถ์อยู่สองถึงสามแห่งที่มีความงดงาม ตั้งแต่โบสถ์ เซต์ซาเวียร์ (St.Saviour) อันแสนสวย โบสถ์เซนต์มอร์ริเชียส (St.Maritius) ที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม และมหาวิหารอัสสัมชัน (Cathedral of the Assumption of the Virgin) ที่อวดสถาปัตยกรรมแบบบาโร้ค
การชมความสวยงามของเมืองอีกทางหนึ่งที่แนะนำคือขึ้นเคเบิ้ลไปชม ดูบรอฟนิก ในมุมสูง สวยงามไม่ควรพลาดค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความเห็น